การใช้หินพัมมิสเป็นวัสดุปลูก
การใช้งานหินพัมมิสในด้านต่างๆ
วัสดุปลูก
หินภูเขาไฟ เป็นวัสดุปลูกที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม เหมาะกับการปลูกไม้ดอกไม้ประดับลงดินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้รองเท้านารี หรือดอกหน้าวัว หินภูเขาไฟ สามารถอุ้มน้ำ และปุ๋ยต่างๆได้ดี เก็บกักความชื้นไว้ได้นาน ทำให้ไม่สูญเสียน้ำ หรือปุ๋ยอันมีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์ ถึงแม้หินภูเขาไฟจะเก็บความชื้นได้ดี หินภูเขาไฟก็ยังไม่มีปัญหาเรื่องราขึ้น ที่สำคัญยังมีความคงทนสูง ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานในกระถางซึ่งแตกต่างจากกาบมะพร้าว อิฐมอญ หรือวัสดุปลูกประเภทอื่นที่จะสูญสลายไปตามธรรมชาติ หินภูเขาไฟไม่มีการยุบตัว ผุพังหรือบุบสลาย นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุตามธรรมชาติ ช่วยทำให้ต้นไม้แข็งแรง ออกดอกสวยงาม ไม่เพียงเท่านั้น หินภูเขาไฟ ยังช่วยปรับสภาพดินที่แข็งให้ร่วนซุยมากขึ้น
วิธีใช้
นำหินภูเขาไฟแช่น้ำพอหมาดๆ แล้วใช้วางลงใต้ก้นกระถาง, ผสมดินปลูก, วางไว้หน้าดิน หรือใช้หินอย่างเดียวแทนดิน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นสำหรับต้นไม้ แม้หินภูเขาไฟจะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ได้ดี แต่ยังต้องคอยรดน้ำ โดยสามารถสังเกตได้จากสีของหิน หากเริ่มแห้ง หรือขาวขึ้นก็ควรรดน้ำเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย
เดิมทีภูไมท์ และ หินภูเขาไฟคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่คนไทยบางกลุ่มในอดีตอ่านชื่อภาษาอังกฤษของหินภูเขาไฟ (Pumice) ผิดเป็นภูไมท์ เลยเรียกติดปากกันมาตั้งแต่ตอนนั้น
หินภูเขาไฟ และเพอร์ไลท์ แตกต่างกันที่การกำเนิด หินภูเขาไฟเกิดจากลาวาที่เย็นตัวลง ส่วนเพอร์ไลท์ เป็นหินอสัณฐานภูเขาไฟที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง โดยเกิดจากการที่น้ำเข้าไปทำปฏิกิริยากับหินอ๊อบซิเดียน เพอร์ไลท์มักจะมีน้ำหนักเบากว่า และสีขาวมากกว่าหินภูเขาไฟ คุณสมบัติทางธาตุของวัสดุสองตัวนี้จะใกล้เคียงกัน แต่เพอร์ไลท์ไม่มีคุณสมบัติในการปรับค่า Ph เหมือนหินภูเขาไฟ